การดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฉุกเฉิน

1. ทำการเสียบปลั๊กระบบไฟฉุกเฉินเข้ากับไฟ AC 220 V ตลอดเวลาเพื่อให้แบตเตอรี่ได้รับการชาร์จไฟอยู่ตลอดเวลา

2. ผู้ใช้งานควรมีการทดสอบเครื่องเป็นระยะ ตาม วสท. 2004-51 ได้ทำการกำหนดไว้ดังนี้ 

การตรวจสอบรายเดือน

     สามารถทำการตรวจสอบโคมไฟฟ้าฉุกเฉินโดยการป้อนไฟจากแบตเตอรี่เข้าหลอดไฟ เพื่อจำลองความล้มเหลวของการจ่ายไฟสักระยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าหลอดไฟ หรือหลอด LED ทำงานเป็นปกติ ระยะเวลาทดสอบต้องไม่ต่ำกว่า 30 นาที ระหว่างช่วงเวลานี้ต้องตรวจสอบโคมไฟฉุกเฉินทุกชุดด้วยตาเปล่า เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานถูกต้อง หรือถ้าเป็นไฟฉุกเฉินรุ่นใหม่ สามารถใช้ รีโมท ในการตรวจเช็คการทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น 

ปล.ไฟฉุกเฉินรุ่นใหม่มีโปรแกรมตรวจสอบตัวเองอัตโนมัติ ที่เป็นมาตรฐานออกมาจากทางผู้ผลิต เป็นรายสัปดาห์ และรายเดือน

การตรวจสอบราย 1 ปี

     สามารถทำการตรวจสอบโคมไฟฟ้าฉุกเฉินโดยการป้อนไฟจากแบตเตอรี่เข้าหลอดไฟ หรือหลอด LED เพื่อจำลองความล้มเหลวของการจ่ายไฟสักระยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าหลอดไฟทำงาน เป็นปกติ ระยะเวลาทดสอบต้องไม่ต่ำกว่า 60 นาที ระหว่งช่วงเวลานี้ต้องตรวจสอบโคมไฟฉุกเฉินทุกชุดด้วยตาเปล่า เพื่อให้แน่ใจว่าทำงานถูกต้อง 

3. หลังจากทำการทดสอบเครื่องไฟฉุกเฉินตามขั้นตอนในข้อ 2 แล้วต้องทำการจ่ายไฟฟ้าปกติเข้ามาในระบบในทันที เพื่อให้แน่ใจว่า แบตเตอรี่ได้รับการประจุไฟอีกครั้ง

4. ไม่ควรทำการทดสอบโดยใช้ระยะเวลาเกินกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื่องจากถ้าเกิดความล้มเหลวของระบบจ่ายไฟปกติขึ้นหลังจากทำการทดสอบไม่นาน จะทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายไฟได้ตามระยะเวลาที่กำหนด 

5. ถ้าเครื่องไฟฉุกเฉินเกิดการขัดข้องในการใช้งานขึ้น ไม่ควรซ่อมเองให้ติดต่อผู้ผลิตเครื่องไฟฉุกเฉินเพื่อที่เครื่องจะได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง

     ปัจจุบันการใช้ระบบไฟฉุกเฉินมีความสำคัญมาก เช่น ป้ายทางออกหนีไฟในอาคารสาธารณะ เช่น โรงแรม ตึกสูง สถานบันเทิง อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า มีความจำเป็นอย่างมากเนื่องจากเกื่ยวกับความปลอดภัย ทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งในยุโรป และอเมริกา รวมทั้งบางประเทศในเอเชีย ได้ออกกฎหมายให้อาคารเหล่านั้น นอกจากติดดั้งไฟฉุกเฉินแล้ว ยังต้องติดตั้งระบบ แผ่นป้ายไฟฉุกเฉิน แสดงทิศทาง ที่ผนัง บันได ให้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถออกจากพื้นที่ได้เร็วและปลอดภัยที่สุด
Visitors: 3,047,881